ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.รัษฎา ประภาสะวัต อาจารย์ภาควิชาพยาธิวิทยา คณะแพทยศาสตร์ ได้รับการตีพิมพ์บทความวิชาการระดับนานาชาติ อยู่ใน Quartile 1 , Impact factor 4.3
Anong Kiddee, Atchariya Yosboonruang, Achiraya Siriphap, Grissana Pook-In, Chittakun Suwancharoen, Acharaporn Duangjai, Ratsada Praphasawat, Masami Suganuma and Anchalee Rawangkan. Restoring Multidrug-Resistant Escherichia coli Sensitivity to Ampicillin in Combination with (?)-Epigallocatechin Gallate. Antibiotics 2024, 13(12), 1211; https://doi.org/10.3390/antibiotics13121211
ผลงานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์ ความสำคัญ และการนำไปใช้ประโยชน์ของงานวิจัย :
แบคทีเรียดื้อยาหลายขนาน Multidrug-resistant (MDR) โดยเฉพาะ Escherichia coli เป็นสาเหตุหลักของการติดเชื้อที่เกี่ยวข้องกับการดูแลสุขภาพทั่วโลก ซึ่งสร้างความท้าทายในการรักษาอย่างมาก การศึกษาครั้งนี้เพื่อทดสอบประสิทธิภาพของ (?)-epigallocatechin gallate (EGCG) ซึ่งเป็นองค์ประกอบตามธรรมชาติของชาเขียว เมื่อใช้ร่วมกับแอมพิซิลลิน (AMP) เพื่อฟื้นฟูประสิทธิภาพของ AMP ต่อเชื้อ E. coli MDR ที่แยกได้ 40 สายพันธุ์ การทดสอบฤทธิ์ต้านจุลชีพดำเนินการเพื่อกำหนดความเข้มข้นต่ำสุดที่ยับยั้งได้ (the minimum inhibitory concentrations หรือ MIC) ของ EGCG โดยใช้เทคนิคไมโครไดลูชั่นมาตรฐาน การทดสอบแบบ Checkerboard ถูกนำมาใช้เพื่อประเมินผลการทำงานร่วมกันที่อาจเกิดขึ้นของ EGCG ร่วมกับ AMP ผลทางเภสัชพลวัตของการใช้ร่วมกันได้รับการประเมินโดยใช้การทดสอบการฆ่าเวลา การแตกของเยื่อหุ้มชั้นนอกได้รับการวิเคราะห์โดยการวัดการรั่วไหลของ DNA และโปรตีน และการประเมินโดยใช้สีย้อมเรืองแสง N-phenyl-1-naphthylamine (NPN) และ Rhodamine 123 (Rh123) การศึกษาการกำจัดไบโอฟิล์มเกี่ยวข้องกับการทดสอบการก่อตัวของไบโอฟิล์มและการทดสอบชีวมวลและความมีชีวิตของไบโอฟิล์มที่ดำเนินการไว้ก่อนหน้านี้ การเปลี่ยนแปลงในสัณฐานวิทยาของเซลล์จากการตรวจสอบภายใต้กล้องจุลทรรศน์อิเล็กตรอนแบบส่องกราด (SEM) ทั้งหมดนี้ ผลลัพธ์บ่งชี้ว่า EGCG แสดงกิจกรรมต่อเชื้อที่แยกทั้งหมด โดยมีค่า MIC อยู่ในช่วง 0.5 ถึง 2 มก./มล. ในขณะที่ AMP แสดงค่า MIC ระหว่าง 1.25 ถึง 50 มก./มล. ที่สำคัญ การผสม EGCG-AMP แสดงให้เห็นประสิทธิภาพที่เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับการรักษาแบบใดแบบหนึ่งเพียงอย่างเดียว ซึ่งบ่งชี้โดยดัชนีความเข้มข้นยับยั้งระหว่าง 0.009 ถึง 0.018 มก./มล. พบว่าการทำงานร่วมกันที่เด่นชัดที่สุดเกิดขึ้นใน 13 สายพันธุ์ที่ดื้อยา โดยที่ MIC ของ EGCG ลดลงเหลือ 8 ?g/mL (จาก 1 mg/mL เพียงอย่างเดียว) และของ AMP ลดลงเหลือ 50 ?g/mL (จาก 50 mg/mL เพียงอย่างเดียว) ทำให้ลดลง 125 เท่าและ 1,000 เท่าตามลำดับ การทดสอบการฆ่าแบบ Time-kill แสดงให้เห็นว่าผลการฆ่าเชื้อแบคทีเรียของการใช้ EGCG ร่วมกับ AMP เกิดขึ้นภายใน 2 ชั่วโมง กลไกการทำงานของ EGCG ได้แก่ การขัดขวางการซึมผ่านของเยื่อหุ้มเซลล์และการกำจัดไบโอฟิล์มโดยลักษณะผลที่เกิดขึ้นกับขนาดยา และจากการตรวจสอบด้วย SEM ยืนยันว่าการรักษาแบบผสมผสานให้ผลดีกว่าการรักษาแบบเดี่ยวอย่างสม่ำเสมอ การศึกษาครั้งนี้เน้นย้ำถึงศักยภาพในการฟื้นฟูประสิทธิภาพของ AMP ร่วมกับ EGCG ในฐานะกลยุทธ์ที่มีแนวโน้มดีในการรักษาการติดเชื้อ MDR E. coli